พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2566 หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า พ.ร.บ.รถยนต์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 โดยเป็นกฎหมายที่บังคับใช้กับรถทุกประเภทที่จดทะเบียนในประเทศไทย โดยกำหนดให้เจ้าของรถต้องซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

สำหรับแนวโน้มของ พ.ร.บ.รถยนต์ในปี 2566 มีดังนี้ 

• เบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. จะสูงขึ้น เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถที่เพิ่มขึ้น

• การชำระเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. จะสะดวกและรวดเร็วขึ้น เนื่องจากสามารถชำระเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องทางออนไลน์ ช่องทางเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือช่องทางตัวแทนประกัน

• การแจ้งความประสงค์ต่อผู้ประสบภัยจากรถ จะสะดวกและรวดเร็วขึ้น เนื่องจากสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องทางออนไลน์ ช่องทางเคาน์เตอร์สำนักงานขนส่ง หรือช่องทางตัวแทนประกัน

• การตรวจสอบประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. จะสะดวกและรวดเร็วขึ้น เนื่องจากสามารถตรวจสอบประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ.ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องทางออนไลน์ ช่องทางเคาน์เตอร์สำนักงานขนส่ง หรือช่องทางตัวแทนประกัน

สำหรับแนวทางการเตรียมความพร้อมในการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ในปี 2566 มีดังนี้

• ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเลือกซื้อประกันภัย พ.ร.บ. ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณ

• ชำระเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. ล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อ พ.ร.บ. ในช่วงใกล้หมดอายุ ซึ่งอาจทำให้เบี้ยประกันภัยสูงขึ้น

• แจ้งความประสงค์ต่อผู้ประสบภัยจากรถ ทันที หากเกิดอุบัติเหตุรถชน เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับค่าสินไหมทดแทนโดยเร็ว

• ตรวจสอบประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่ารถของตนมีประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองอยู่

โดยสรุปแล้ว พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2566 เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญในการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โดยเจ้าของรถมีหน้าที่ต้องซื้อประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งจะได้รับค่าสินไหมทดแทนในกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน